จะแยกแยะระหว่างสกรูหางสว่านและสกรูเกลียวปล่อยได้อย่างไร?

สกรูเป็นอุปกรณ์ยึดชนิดหนึ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป และมีสกรูอยู่หลายประเภท เช่น สกรูหางสว่านและสกรูเกลียวปล่อย

ปลายของสกรูหางสว่านมีลักษณะเป็นหางสว่านหรือหางแหลม ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเสริม สามารถเจาะ ต๊าปเกลียว และยึดกับวัสดุตั้งต้นและวัสดุฐานรากได้โดยตรง ช่วยประหยัดเวลาในการก่อสร้างได้อย่างมาก เมื่อเทียบกับสกรูทั่วไป สกรูหางสว่านมีความแข็งแรงและแรงยึดสูง ไม่คลายตัวแม้ใช้งานเป็นเวลานาน ใช้งานง่าย ปลอดภัย เจาะและต๊าปเกลียวได้ในขั้นตอนเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานก่อสร้าง สถาปัตยกรรม ที่อยู่อาศัย และสถานที่อื่นๆ สกรูเกลียวปล่อยและสกรูเจาะเกลียวปล่อยเป็นอุปกรณ์ยึดที่คุ้มค่าที่สุด ทั้งในด้านการใช้งาน ต้นทุน และความน่าเชื่อถือ

dzjhkf1

สกรูเกลียวปล่อย หรือที่รู้จักกันในชื่อสกรูยึดเร็ว เป็นตัวยึดเหล็กที่ผ่านการชุบสังกะสีและเคลือบสารป้องกันการเกิดสนิมบนพื้นผิว สกรูเกลียวปล่อยมักใช้สำหรับยึดแผ่นโลหะบางๆ (เช่น แผ่นเหล็ก แผ่นเลื่อย ฯลฯ) เมื่อเชื่อมต่อ ให้เจาะรูที่ก้นของชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อก่อน จากนั้นจึงขันสกรูเกลียวปล่อยเข้าไปในรูที่ก้นของชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อ

dzjhkf2

① การแยกความแตกต่างระหว่างสกรูหางเจาะและสกรูเกลียวปล่อยตามวัสดุ: สกรูหางเจาะจัดอยู่ในประเภทสกรูไม้ ในขณะที่สกรูเกลียวปล่อยจัดอยู่ในประเภทสกรูแบบล็อกเอง

② ความแตกต่างระหว่างสกรูหางเจาะและสกรูเกลียวปล่อยในแง่ของการใช้งาน: สกรูหางเจาะส่วนใหญ่ใช้ในการยึดกระเบื้องเหล็กสีและแผ่นเหล็กบางในโครงสร้างเหล็ก จุดเด่นคือหางมีรูปร่างคล้ายหางเจาะหรือหางแหลม เมื่อใช้งานไม่จำเป็นต้องมีขั้นตอนเพิ่มเติม และสามารถเจาะ ต๊าป ล็อค และขั้นตอนอื่นๆ ลงบนวัสดุได้โดยตรงในคราวเดียว ช่วยประหยัดเวลาในการติดตั้งได้อย่างมาก สกรูเกลียวปล่อยมีความแข็งสูงและสามารถใช้กับวัสดุที่มีความแข็งสูง เช่น แผ่นเหล็ก มีแรงบิดในการขันต่ำและประสิทธิภาพการล็อคสูง

③ ความแตกต่างระหว่างสกรูหางสว่านและสกรูเกลียวปล่อยในแง่ของประสิทธิภาพ: สกรูหางสว่านเป็นเครื่องมือที่ใช้หลักฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ของการหมุนแบบวงกลมเอียงและแรงเสียดทานของวัตถุ เพื่อค่อยๆ ขันชิ้นส่วนเชิงกลของวัตถุให้แน่นขึ้น สกรูหางสว่านคือสกรูที่มีหัวสว่านเกลียวปล่อยอยู่ที่ปลายด้านหน้าของสกรู สกรูเกลียวปล่อยมักใช้สำหรับเชื่อมต่อแผ่นโลหะบาง (เช่น แผ่นเหล็ก แผ่นเลื่อย ฯลฯ) เมื่อเชื่อมต่อ ให้เจาะรูที่ก้นของชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อก่อน จากนั้นจึงขันสกรูเกลียวปล่อยเข้าไปในรูที่ก้นของชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อ


เวลาโพสต์: 05 ก.ย. 2567